4 ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (พร้อมคำตอบ)

มีการขายรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 2 ล้านคันทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมากของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังคงมีอุปสรรคมากมายที่ขัดขวางการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในวงกว้าง อุปสรรคเหล่านี้เป็นผลมาจากความเข้าใจผิดของผู้คนเกี่ยวกับความปลอดภัย ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ต้นทุน และอีกมากมายวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเชื่อนั้นๆกันครับ

ความเชื่อที่ 1: รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

ข้อเท็จจริง

ต้นทุนเริ่มต้นของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดกำลังลดลง หลายแห่งมีราคาที่แข่งขันได้อยู่แล้ว ด้วยค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและการบริการที่ถูกกว่า ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกมากในการจัดซื้อ บำรุงรักษา และใช้งานมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และหากการอภิปรายเกี่ยวกับ EV กับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน การโต้เถียงยังคงดำเนินต่อไป แต่ EV กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นและมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า

ความเชื่อที่ 2: ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากรถยนต์ไฟฟ้านั้นเกินขีดความสามารถของระบบไฟฟ้าในประเทศ

ข้อเท็จจริง

รถยนต์ไฟฟ้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้า ความต้องการโดยรวมเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับต่ำ และรถยนต์ไฟฟ้ายังมีระบบที่ช่วยควบคุมพลังงาน รวมทั้งลดค่าไฟสำหรับลูกค้า ดังนั้นมั่นใจได้ว่าแต่ละประเทศมีไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการในส่วนนี้อย่างแน่นอน

ความเชื่อที่ 3: รถยนต์ไฟฟ้ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

ข้อเท็จจริง

รถยนต์ไฟฟ้าปล่อยสารปนเปื้อนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพียงเล็กน้อยจากรถยนต์ที่ใช้ก๊าซจากผู้ผลิตสู่ท้องถนน เนื่องจากไม่มีการปล่อยไอเสียจากท่อไอเสีย EVs ในทุกประเภทได้แทนที่น้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลที่ใช้ในแต่ละวันทั่วโลกแล้ว นอกจากนั้นยังสามารถรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วย และความเชื่อที่ว่าพลังงานไฟฟ้าที่ถูกใช้มากขึ้นจากถ่านหินทำให้โลกร้อนเท่ากันหรือมากกว่านั้นไม่เป็นความจริง

ความเชื่อที่ 4: เฉพาะรถซีดานเท่านั้นที่มีในรถยนต์ไฟฟ้า

ข้อเท็จจริง

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) มีจำหน่ายในประเภทรถยนต์หลากหลายประเภท นอกเหนือไปจากรุ่นซีดาน/คอมแพ็ค มีรถยนต์ PHEV และ EV มากกว่า 50 คันในตลาดแล้ว และในปัจจุบันนั้นไม่ว่าจะรถกระบะ รถบัส รถบรรทุก รวมไปถึงรถยนต์ที่ใช้ในการก่อสร้างก็มีรุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าออกมาแล้ว

เห็นมั้ยครับ เราจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม รถยนต์และการขนส่งทางไฟฟ้านั้นมีอนาคตที่สดใส ไม่ว่าจะแหล่งพลังงาน ค่าใช้จ่าย คุณภาพ หรือสิ่งแวดล้อม ยังไงการขนส่งโดยใช้ไฟฟ้าก็จะเข้ามาแทนที่อย่างแน่นอน อยู่ที่เวลาเท่านั้น หากคุณพร้อมละก็ ทำไมม่ลงทุนตั้งแต่วันนี้เลยล่ะ?

Published on:
March 30, 2022
Category:
EV

Related

ประเทศไทยจะเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตได้หรือไม่?

ภูมิภาคอาเซียนถือเป็นตลาดใหม่ที่สำคัญและน่าตื่นเต้นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ามีการแข่งขันกันสูงมากในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากเนื่องจากในภูมิภาคอาเซียนมีข้อดีคือเป็นศูนย์การผลิตที่มีต้นทุนไม่สูงแต่ยังคงคุณภาพแม้แต่รัฐบาลในประเทศอาเซียนก็ให้ความสนใจการนำเข้ารถ EVรวมถึงประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ซื้อรถEV จากจีนมากที่สุดในอาเซียนตามด้วยอินโดนีเซียและมาเลเซีย ทำให้ไทยรั้งอันดับ 3 ในตลาดส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าของจีน